นกฟอพัส เป็นนกแก้วชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกลูนกปากขอพันธุ์เล็กที่มีสีสันสวยงาม มีมากมายหลากหลายสี สีหลักหรือเริ่มต้นก็จะมีสีเขียว สีฟ้า สีขาว สีเหลือง ซึ่งวันนี้ MyThaiPet จะมาพูดถึงเจ้านกฟอฟัสกัน

ประวัตินกฟอฟัส
นกฟอพัส เป็นนกแก้วชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกลูนกปากขอพันธุ์เล็กที่มีสีสันสวยงาม มีมากมายหลากหลายสี สีหลักหรือเริ่มต้นก็จะมีสีเขียว สีฟ้า สีขาว สีเหลือง ซึ่งตอนนี้สามารถพัฒนาสีสันได้เพิ่มมากขึ้น นกฟอพัส เป็นนกแก้ว (นกตระกูลปากขอ )ชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กที่สุด (Parrotlet) ซึ่งจัดอยู่ในประเภทนกสวยงาม สามารถพัฒนาสีสันได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ส่งเสียงดัง นกฟอพัสเป็นนกที่ถูกจัดให้ขึ้นบัญชีไซเตสประเภท 2 ปัจจุบัน สามารถจำแนกออกได้ทั้งหมด 8 สายพันธุ์ คือ
นกฟอฟัสกับ 8 สายพันธุ์
Yellow-Face Parrotlet (Forpus Xanthops)
มีขนาดความยาว 15 ซม. เป็นสาย พันธุ์เดียวที่มีขนาดความยาวมากที่สุด มีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู
Maxican Parrotlet (Forpus Cyanopygius, Forpus C. Insularis)
มีขนาดความยาว 13 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโก
Green-Rumped Parrotlet (Forpus Passerinus, Forpus P. Viridissimus, Forpus P. Deliciosus)
มีขนาดความยาว 12 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส
Blue-Winged Parrotlet (Forpus Xanthopterygius, Forpus X. Flavissimus, Forpus X. Flavescens)
มีขนาดความยาว 12 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศอาเจนติน่า บราซิล
Spectacied Parrotlet (Forpus Conspicillatus, Forpus C. Caucae)
มีขนาดความยาว 13 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศปานามา
Turqoise-Rumped Parrotlet (Forpus Spengeli)
มีขนาดความยาว 12 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศโคลัมเบีย
Sclaters Parrotlet (Forpus Sclateri)
มีขนาดความยาว 12 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล
Pacific Parrotlet (Forpus Coelestis)
มีขนาดความยาว 13 ซม. มีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู
ขนาดของนกฟอพัสจะเล็กมากๆ ใกล้เคียงกับนกกระจอกหรือนกเลิฟเบิร์ดเท่านั้นเอง
ข้อดีของการเลี้ยงนกฟอฟัส

ข้อดีของนกฟอพัสคือเป็นนกที่มีขนาดเล็ก มีสีสันสวยงาม พกพาสะดวก เป็นนกที่มีนิสัยร่าเริงและฉลาด สามารถสอนได้ ไม่ส่งเสียงดังเป็นที่รำคาญ ขี้เล่น รักเจ้าของ สามารถฝึกให้เชื่องและปล่อยบินอิสระได้ จากเหตุผลข้างต้นจึงเป็นเหตุให้ฟอพัสเป็นนกอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ต้องการเลี้ยง
วิธีเลี้ยงนกฟอพัส
การเลี้ยงดูนกฟอพัส ไม่ยุ่งยากเนื่องจากเป็นนกขนาดเล็ก กรงที่ใช้เลี้ยงจึงสามารถใช้กรงขนาดเล็กได้แต่อย่างน้อยต้องมีขนาดไม่เล็ก กว่ากรงหมอนใหญ่ แต่ขนาดที่เหมาะสมที่สุดหรือมีประสิทธิภาพมากที่สุดควรเป็นกรงเพาะเบอร์ 3
ในการเพาะพันธุ์ให้นำนกที่มีอายุพร้อมผสมพันธุ์ มีสุขภาพสมบูรณ์ มาเลี้ยงในกรงเพาะเป็นคู่ๆ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ จึงนำรังไข่ที่ใส่ขี้กบมาแขวนเพื่อให้นกเข้าไปตกแต่งรังและวางไข่ต่อไป
อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยง ประกอบด้วยส่วนผสมของเมล็ดธัญพืช อันได้แก่ หวยมั้ว มิลเลต ข้าวไร ข้าวโอ๊ด ข้าวเปลือกและทานตะวัน ธัญพืชต่างๆรวม13อย่าง ผักและผลไม้ และควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน